รายละเอียดของผลิตภัณฑ์
ทั่วไป
- ผิวหน้าเคลือบสีลูมิฟลอน เบสด์ ฟลูโรคาร์บอน (Lumiflon-Based Fluorocarbon -FEVE)
- อลูมิเนียม หนา 0.5 มม.
- ไส้กลางเเร่ทนไฟ ผลิตจากสารประกอบที่ไม่ติดไฟ หนา 2.0-5.0 มม.
- ผิวหลังเคลือบสีพอลิเอสเตอร์ ช่วยป้องกันการสึกกร่อนจากสนิมของโครงคร่าวเเละอัลคาไลน์จากซีเมนต์
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
ความหนา : 3.0 มม., 4.0 มม., 0.5 มม.
ความกว้าง : 965 มม., 1,270 มม., 1,575 มม.
(สามารถสั่งตัดและกำหนดขนาดความกว้างพิเศษได้ระหว่าง 914 – 1,600 มม.)
ความยาว : 2,489 มม., 3,099 มม.
(สามารถสั่งตัดและกำหนดขนาดความยาวพิเศษได้ระหว่าง 1,800 – 7,200 มม.)
น้ำหนัก : 6.0 กก./ตรม. (3.0 มม.), 7.6 กก./ตรม. (4.0 มม.), 10.9 กก./ตรม. (6.0 มม.)
ชาร์ตสีสำหรับภายนอก
การรับประกันคุณภาพสีเคลือบ
ALPOLIC เคลือบสีด้วยระบบ LUMIFLON-based Fluorocarbon (FEVE) คุณภาพสูง คิดค้นโดยบริษัท Asahi Coat Tech ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นระบบเคลือบสีที่เหนือกว่าระบบการเคลือบสี PVdF ทั่วไป ทั้งยังช่วยสะท้อนความร้อนไม่ให้เข้าสู่ตัวอาคารได้โดยตรง ทำให้อาคารที่ใช้เป็นอาคารอนุรักษ์พลังงานลดปัญหาปรากฏการณ์เกาะร้อน (Urban Heat Island Effect) มีความสวยงาม ทนทานต่อทุกสภาพภูมิอากาศ รับประกันคุณภาพนานถึง 20 ปี อีกทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาตลอดอายุการใช้งาน
เมื่อเทียบกับสี PVdF สีจากระบบ LUMIFLON- based Fluorocarbon (FEVE) มีให้เลือกหลากหลายกว่า อีกทั้งยังสามารถซ่อมแซมหน้างานได้ และมีระดับความเงา (Gloss) มากกว่า 15- 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับสี PVdF ที่ 25- 35 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเทียบกับระบบสี Polyester จะพบว่าระบบสี LUMIFLON- based Fluorocarbon (FEVE) มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลายเท่า โดยระบบสีนี้จะช่วยลดจุดด้อยของระบบ PVdF ได้อย่างสมบูรณ์และมีคุณลักษณะที่เหนือกว่าดังนี้
- มีความทนทานของสีมากกว่า จึงสามารถรับประกันคุณภาพสีได้ถึง 20 ปี
- มีความมันเงามากกว่า สามารถทำให้มีความมันเงาได้ 15-80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสี PVdF ไม่สามารถทำได้ นอกจากเสริมสร้างความงดงามแล้ว ยังลดคราบสกปรกที่อาจเกาะอยู่บนแผ่นวัสดุได้เป็นอย่างดีด้วย
- มีสีสันสดใสกว่า
- สามารถผลิตสีได้ไม่จำกัด ช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถเลือกใช้สีต่างๆ ได้ตามจินตนาการ
- สามารถซ่อมแซมสีที่เสียหายได้ ในขณะที่สี PVdF ไม่สามารถทำได้เนื่องจากต้องผ่านห้องอบสีที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 250 องศาเซลเซียส
- มีความแข็งของเนื้อสีมากกว่าจึงสามารถพับแผ่นได้โดยไม่ทำให้สีบนผิววัสดุเสียหาย
- เป็นสีที่นิยมใช้ในการเคลือบวัสดุประเภทต่างๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและได้รับการพัฒนาจากระบบสี PVdF ที่เริ่มล้าสมัยแล้ว (Obsolete Technology)
ตารางนี้แสดงให้เห็นว่าระบบสี LUMIFLON- based Fluorocarbon (FEVE) ที่ใช้กับ ALPOLIC®/fr สามารถคงความมันเงาได้นานกว่าระบบสี PVdF และระบบสีอื่นๆเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ช่วยให้สถาปัตยกรรมที่ใช้ ALPOLIC คงความสวยงามได้นานกว่า
นอกจากนี้กระบวนการผลิตแบบ Thermo Bonding ของ ALPOLIC ยังช่วยไม่ให้เกิดการแยกชั้นหรือหลุดล่อนของแผ่น (Delamination) ด้วยระบบและกระบวนการผลิตแผ่นอลูมิเนียม คอมโพสิทที่ใช้อลูมิเนียมอัลลอย ชนิด Alloy 3105-H14 ซึ่งมีความหนา 0.5 มม. ประกบอยู่ทั้งสองด้านของสารไส้กลางกันไฟแล้วใช้วิธีการประกบแผ่นแบบความร้อนอย่างต่อเนื่อง (Continuous In line Process: Thermo Bonding) โดยไม่ใช้สารยึดติด หรือกาวในการประกบแผ่นใด ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายจากการแยกชั้นและหลุดล่อนหากใช้วัสดุไปนานๆ ไม่เพียงแต่ความใส่ใจในกระบวนการผลิตเท่านั้น ทางบริษัทยังรับประกันคุณภาพด้วยใบรับประกันสินค้าที่มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ถึงความแข็งแรงและทนทานของผลิตภัณฑ์
การรับประกันคุณภาพประกอบแผ่น
นอกจากนี้กระบวนการผลิตแบบ Thermo Bonding ของ ALPOLIC ยังช่วยไม่ให้เกิดการแยกชั้นหรือหลุดล่อนของแผ่น (Delamination) ด้วยระบบและกระบวนการผลิตแผ่นอลูมิเนียม คอมโพสิทที่ใช้อลูมิเนียมอัลลอย ชนิด Alloy 3105-H14 ซึ่งมีความหนา 0.5 มม. ประกบอยู่ทั้งสองด้านของสารไส้กลางกันไฟ แล้วใช้วิธีการประกบแผ่นแบบความร้อนอย่างต่อเนื่อง (Continuous In line Process: Thermo Bonding) โดยไม่ใช้สารยึดติด หรือกาวในการประกบแผ่นใด ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเสียหายจากการแยกชั้นและหลุดล่อนหากใช้วัสดุไปนาน ๆ ไม่เพียงแต่ความใส่ใจในกระบวนการผลิตเท่านั้น ทางบริษัทยังรับประกันคุณภาพด้วยใบรับประกันสินค้าที่มีระยะเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี ผู้ใช้จึงมั่นใจได้ถึงความแข็งแรงและทนทานของผลิตภัณฑ์
วิธีการติดตั้ง
การใช้งานสามารถทำได้ด้วยวิธีการเดียวกับงานอลูมิเนียม และด้วยอุปกรณ์สำหรับงานไม้ทั่วไป มาตรฐานของวิธีการทำงานมีดังต่อไปนี้
การตัดด้วยใบเลื่อย
ใบเลื่อยไฟฟ้าและโต๊ะรองเลื่อยที่ใช้ในงานไม้สามารถตัดแผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท ALPOLIC®/fr ได้ง่ายดาย แต่ควรใช้ใบเลื่อยคาร์ไบด์ที่ใช้ตัดอลูมิเนียม และพลาสติกโดยเฉพาะ
การตัดด้วยเครื่องเชียร์
เครื่องตัดแบบนี้จะช่วยให้ตัดชิ้นงานออกมาได้เป็นจำนวนมากแต่บริเวณขอบอาจไม่เรียบร้อยเท่ากับการตัดด้วยใบเลื่อยตารางต่อไปนี้แสดงการปรับตั้งระยะและมุมของหัวตัดที่เหมาะสม
| ความหนาของแผ่น | ช่องว่างระหว่างหัวตัด | มุมองศาของหัวตัด |
| 3 มม. | 0.04 มม. | 1 องศา |
| 4 มม. | 0.04 มม. | 1 องศา 30 ลิปดา |
| 6 มม. | 0.2 มม. | 2 องศา 30 ลิปดา |
การเชาะร่อง
ควรเหลือกความหนาของไส้กลางในร่องรูปตัวยู (U) ที่เซาะไว้ 0.2-0.4 มม. และมุมเซาะร่องควรอยู่ที่ 110 องศา
วิธีที่ 1 การใช้เราเตอร์ ควรใช้ดอกสว่านเซาะร่อง ที่ดัดแปลงแล้ว
(ตัวอย่างขนาดและความเร็วของดอกสว่าน)
จำนวนซี่ฟันของสว่าน : 2-4 ซี่
อัตราความเร็วในการหมุน : 20,000-30,000 รอบ/นาที
อัตราความเร็วในการเซาะ : 3-5 เมตร/นาที
ประเภทของหัวสว่าน : คาร์ไบด์
วิธีที่ 2 การใช้เครื่องเซาะร่อง ในกรณีที่ต้องเซาะ ร่องแผ่นวัสดุจำนวนมาก
(ตัวอย่างขนาดและความเร็วของเครื่องเซาะร่อง)
ประเภทของหัวเซาะร่อง : คาร์ไบด์
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางรอบนอก : 305 มม.
จำนวนซี่ฟันของหัวเซาะร่อง : 24
อัตราความเร็วในการหมุน : 3,000-5,000 รอบ/นาที
อัตราความเร็วในการเซาะร่อง : 5 เมตร/นาที
การพับ
หลังจากเซาะร่องด้านหลังแผ่นวัสดุเป็นที่เรียบร้อยแล้วสามารถทำการพับด้วยเครื่องพับหรือเครื่องสำหรับกดแผ่นวัสดุแต่วิธีพับที่ดีที่สุดควรทำบนโต๊ะที่มีผิวหน้าเรียบสนิท และควรทำการพับในอุณหภูมิที่ไม่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสเพื่อป้องกันชั้นเคลือบสีของผิววัสดุแตกร้าว
วิธีการพับเพื่อเสริมความแข็งแรงที่ขอบแผ่นวัสดุและป้องกันน้ำเข้าที่มุมแผ่น (Rout-in Return System)ควรพับขอบของแผ่นวัสดุขึ้นมา 25 มม. และหลังจากยืดมุมด้วยริเว็ทแล้วควรอุด หรือยามุมทุกมุมด้วยวัสดุกันซึมอย่างซิลิโคนเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าด้านใน
การดัดโค้งด้วยเครื่องกด
อลูมิเนียมคอมโพสิท ALPOLIC®/fr และ ALPOLIC® สามารถดัดโค้งด้วยเครื่องกดได้โดยตั้งค่ารัศมีที่ต้องการที่ตัวกดด้านบนแต่ควรคำนึงถึงขนาดรัศมีต่ำที่สุดที่สามารถดัดโค้งได้ ตามตารางต่อไปนี้
การดัดโค้งด้วยแท่นลูกกลิ้ง
ค่ารัศมีในการดัดโค้งด้วยแท่นลูกกลิ้งจะมากกว่าการดัดโค้งด้วยเครื่องกด ทั้งนี้ก่อนการดัดโค้งจำเป็นต้องเซาะร่องและตัดขอบแบบฟันปลาตามภาพเตรียมไว้ก่อน
การใช้รีเว็ท และตะปุเกลียว
ควรใช้ริเว็ทอลูมิเนียมยึดบริเวณรอยต่อที่บรรจบกันควรใช้ตะปูเกลียวและนอตที่ทำจากสเตนเลส ส่วนการเซาะและยึดแผ่นวัสดุเข้าด้วยกันควรใช้สูตรการคำนวณ e>2D คือระยะระหว่างจุดศูนย์กลางของรูที่เจาะถึงขอบแผ่นวัสดุ หรือ (e) ควรมากกว่าสองเท่าของขนาดเส้นศูนย์กลางของรู หรือ (D) ซึ่งจะได้ค่าการรับแรงดึงของรูที่เจาะตามหลักทางกลศาสตร์
การเชื่อมด้วยความร้อน
แผ่นอลูมิเนียมคอมโพสิท ALPOLIC®/fr หรือ ALPOLIC® สามารถเชื่อมบริเวณไส้กลางเข้าด้วยกันด้วยวิธีการเชื่อมด้วยความร้อนโดยใช้ปืนสำหรับเชื่อมกับเศษไส้กลางของอลูมิเนียมคอมโพสิท ALPOLIC®/fr หรือ ALPOLIC® เป็นวัสดุเชื่อมได้ทันที และควรเสริมความแข็งแรงโดยใช้ชิ้นอลูมิเนียมติดด้วยเทปกาวสองหน้าปิดด้านหลังแผ่นวัสดุครอบทับบริเวณที่เชื่อม
